วิธีการทำพล่าหมู By ploylek

วัตถุดิบ

  1. เนื้อสันคอหมู
  2. พริกป่น
  3. ข้าวคั่ว
  4. น้ำปลา
  5. มะนาว
  6. ผงชูรส
  7. ผักชีฝรั่ง
  8. ต้นหอม
  9. ผักชี
  10. ตะไคร้
  11. สะระแหน่

วิธีทำ

  1. หั่นหมูเป็นชิ้นๆไม่หนาและไม่บางเกินไป แล้วนำไปลวก
  2. จากนั้นใส่พริกป่น ข้าวคั่ว น้ำปลา น้ำมะนาว ผงชูรส แล้วคนให้เข้ากัน
  3. ซอยผักชี ต้นหอม ตะไคร้ ลงไปแล้วค้นให้เข้ากัน
  4. นำใส่จาน ตกแต่งด้วยใบสะระแหน่ พร้อมเสริฟแล้วค่ะ

ขนมชั้นดอกกุหลาบ

ขนมชั้นดอกกุหลาบ

15 สูตรขนมไทยยอดนิยม

ส่วนผสมขนมชั้นดอกกุหลาบ

15 สูตรขนมไทยยอดนิยม

  1. หัวกะทิ 2 ถ้วย
  2. น้ำตาลทราย 2 ถ้วย
  3.  แป้งท้าวยายม่อม 1/8 ถ้วย
  4. แป้งมันสำปะหลัง 1 ถ้วย
  5. แป้งข้าวเจ้า 1/4 ถ้วย
  6. สีผสมอาหารสีแดง
  7. กลิ่นมะลิ
  8. น้ำมันพืช

วิธีทำขนมชั้นดอกกุหลาบ

  1. ใส่กะทิลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟใส่น้ำตาลทราย คนให้เข้ากันจนละลาย ปิดไฟ พักทิ้งไว้ให้เย็น พอเย็นให้ตักช้อนเอาหัวกะทิที่อยู่ด้านบนใส่ภาชนะเก็บไว้ 15 สูตรขนมไทยยอดนิยม
  2. ผสมแป้งท้าวยายม่อม แป้งมันสำปะหลัง และแป้งข้าวเจ้าเข้าด้วยกัน ค่อย ๆ เทหัวกะทิใส่ลงไปทีละน้อยสลับกับใช้มือนวดแป้งจนแป้งรวมตัวกันเป็นก้อนแล้วนวดต่ออีก ประมาณ 15 นาที เทน้ำกะทิที่เหลือใส่ลงไป ตามด้วยกลิ่นมะลิ คนผสมให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว  15 สูตรขนมไทยยอดนิยม
  3. แบ่งส่วนผสมแป้งออกเป็น 2 ส่วน ใส่สีผสมอาหารสีแดงลงไป 1 ส่วน คนผสมสีให้เข้ากัน15 สูตรขนมไทยยอดนิยม
  4. ทาน้ำมันพืชลงบนถาดสำหรับนึ่งขนมชั้นให้ทั่ว เตรียมไว้15 สูตรขนมไทยยอดนิยม
  5. นำชุดนึ่งขึ้นตั้งไฟ รอจนน้ำเดือดพล่าน จากนั้นวางถาดสำหรับนึ่งขนมลงไปแล้วตักส่วนผสมแป้งสีชมพูใส่ลงไปในพิมพ์ทำเป็นชั้นที่ 1 ปิดฝานึ่งประมาณ 5-7 นาที15 สูตรขนมไทยยอดนิยม
  6. พอชั้นที่ 1 สุกแล้วให้เปิดฝาแล้วตักส่วนผสมสีขาวใส่ลงไป ปิดฝานึ่งต่อ ทำสลับกันไปเรื่อย ๆ จนส่วนผสมแป้งหมดและเต็มพิมพ์
  7. เมื่อนึ่งเสร็จแล้วนำขนมชั้นออกมาจากชุดนึ่ง พักไว้ให้เย็นลง นำขนมชั้นออกจากพิมพ์ ผ่าแบ่งครึ่งขนมชั้นตามยาวแล้วลอกขนมแต่ละชั้นออกมาเป็นแผ่น
  8. วิธีม้วนดอกกุหลาบ คือ ให้ม้วนแผ่นขนมชั้นเข้ามา 1 ทบ พับกลีบแรกไปข้างหลัง 45 องศา แล้วจึงพับตลบขึ้นมา ทำซ้ำเรื่อย ๆ จนหมด พร้อมเสิร์ฟ

วิธีทำขนมอาลัว

ขนมอาลัว

วิธีทำ “ขนมอาลัว” เมนูขนมไทยสีสวยกินเพลิน

วัตถุดิบทำขนมอาลัว

ขนมอาลัว

  1. แป้งเค้ก 1/2 ถ้วย
  2. กะทิ 1 ถ้วย
  3. น้ำตาลทรายไม่ขัดสี 1/4 ถ้วย
  4. สีชมพูจากแก้วมังกร 2 ช้อนโต๊ะ
  5. เทียนอบ 1 ชิ้น

วิธีทำ

ขนมอาลัว

ใส่แป้งเค้กและเติมกะทิลงไป

ขนมอาลัว

คนให้เข้ากัน

ขนมอาลัว

ใส่น้ำตาล คนให้เข้ากันกับแป้ง

ขนมอาลัว

กวนไปเรื่อย ๆ พอแป้งสุกได้ที่จะไม่ติดกะระทะ

ขนมอาลัว

นำสีจากแก้วมังกรมาผสม นวดให้เข้ากัน

ขนมอาลัว

นำใส่กระบอกบีบ

ขนมอาลัว

บีบแป้งลงกระดาษไขบนถาด

ขนมอาลัว

นำไปตากแดด 1 วัน

ขนมอาลัว

จุดเทียนอบ เป่าให้เกิดควัน

ขนมอาลัว

ปิดฝา อบทิ้งไว้ 2 ชั่วโมง

วิธีทำสังขยาฟักทอง

สังขยาฟักทอง

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

วัตถุดิบทำสังขยาฟักทอง

1. ไข่ไก่ 2 ฟอง

2. ไข่เป็ด 2 ฟอง

3. ฟักทอง 1 ลูก

4. กะทิ 200 มิลลิลิตร

5. น้ำตาลปี๊บ 180 กรัม

6. เกลือ 1 ช้อนชา

7. ใบเตย 2 ใบ

วิธีทำสังขยาฟักทอง

  1. นำฟักทองมาเจาะเปิดฝาออก คว้านเมล็ดฟักทองออกให้เหลือแต่ใยข้างใน เพื่อเก็บไว้ยึดตัวสังขยาไม่ให้หลุดออกเวลานึ่งเสร็จ จากนั้นล้างทำความสะอาดทั้งข้างใน และเปลือกข้างนอก จากนั้นก็คว่ำไว้ให้แห้ง
  2. เทไข่ลงในชาม ตีไข่ทั้งหมด ผสมกับกะทิ จากนั้นใส่น้ำตาลปี๊บตามลงไป ใส่ใบเตยลงไปรวมกัน จากนั้นขยำส่วนผสมทั้งหมดในถ้วยให้เข้ากัน จนน้ำตาลละลาย
  3. กรองส่วนผสมด้วยกระชอนหรือผ้าขาวบาง เพื่อให้ส่วนผสมเนียนเข้ากัน
  4. จากนั้นเทน้ำสังขยาลงไปในฟักทอง พยายามตักฟองออกให้หมดเพื่อให้สังขยาดูเนียนสวย
  5. นึ่งใช้เวลาประมาณ 45 นาที แล้วลองเช็คดูด้วยการนำไม้จิ้มลงไปตรงกลาง ถ้าไม่มีเนื้อสังขยาติดออกมาแสดงว่าสุกดีแล้ว แต่ถ้ามีติดออกมาให้นึ่งต่อประมาณ 15 นาที
  6. เมื่อสังขยาพักทองนึ่งเสร็จแล้ว นำไปแช่ในตู้เย็นให้เซตตัว ก่อนนำมาตัดสังขยาฟักทองแบ่งเป็นชิ้น ๆ ออกมาแล้วจัดเสิร์ฟ

วิธีทำลูกชุบเชอร์รี่

ลูกชุบเชอร์รี่

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ลูกชุบเชอร์รี่

วัตถุดิบทำลูกชุบเชอร์รี่

วัตถุดิบลูกชุบ

1. ถั่วเขียวเลาะเปลือกนึ่ง 2 ถ้วยตวง

2. น้ำตาลทราย ¾ ถ้วยตวง (สำหรับกวนถั่ว)

3. กะทิ 1 ถ้วยตวง

4. เกลือ ½ ช้อนชา

5. น้ำ 2 ถ้วยตวง

6. ผงวุ้น 3 ช้อนชา

7. น้ำตาลทราย ¼ ถ้วยตวง (สำหรับทำวุ้น)

8. สีผสมอาหารสีแดงสด

วิธีทำลูกชุบเชอร์รี่

  1. แช่ถั่วในน้ำสะอาด 4-6 ชม. หลังนั้นเทน้ำทิ้งแล้วล้างด้วยน้ำสะอาดอีก 2-3 รอบ นึ่งถั่วด้วยไฟแรง เป็นเวลา 20-30 นาที
  2. ปั่นถั่วนึ่ง น้ำตาลทราย (สำหรับกวนถั่ว) เกลือ และกะทิ เข้าด้วยกันได้เนื้อเนียน
  3. ตั้งไฟกวนส่วนผสมด้วยไฟอ่อน กวนไปเรื่อย ๆ จนกว่าส่วนผสมไม่ติดไม่พายเป็นอันใช้ได้ พักไว้ให้เย็น อาจจะคลุมด้วยผ้าขาวบางชุบน้ำ เพื่อป้องกันหน้าขนมแห้ง
  4. นำส่วนผสมมานวดก่อนเล็กน้อยก่อนปั้น แบ่งถั่วกวนมาชิ้นพอดีคำ ปั้นให้เป็นก้อนทรงกลม ใช้นิ้วกดให้บุ๋มลงเล็กน้อย เสียบไม้แล้วพักไว้ ทำจนถั่วกวนหมด
  5. นำถั่วกวนที่ปั้นแล้ว มาชุบสีแดง กลิ้งสีให้ทั่ว แล้วพักไว้จนสีแห้ง
  6. เตรียมน้ำวุ้น โดยตั้งไฟ ใส่น้ำ ผงวุ้น และน้ำตาลทราย (สำหรับทำวุ้น) รอจนส่วนผสมเดือด 3-4 นาที แล้วปิดไฟ ยกลงรอจนน้ำวุ้นอุ่น จึงนำถั่วกวนที่ชุบสีแล้วมาชุบวุ้น
  7. ทิ้งไว้จนวุ้นแข็งตัว (สัมผัสแล้ววุ้นไม่ติดมือ) จึงนำมาชุบชั้นที่ 2 และ 3
  8. ถอดขนมออกจากไม้เสียบ แล้วใช้มีดคม ๆ ตัดวุ้นส่วนเกินออก แล้วตกแต่งด้วยก้านผลไม้

วิธีทำฟักทองเชื่อม

ฟักทองเชื่อม

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ฟักทองเชื่อม

วัตถุดิบทำฟักทองเชื่อม

วัตถุดิบ "ฟักทองเชื่อม"

วัตถุดิบ "ฟักทองเชื่อม"

1. ฟักทอง 500 กรัม

2. น้ำปูนใส 3-4 ถ้วยตวง

3. น้ำ 500 มิลลิลิตร

4. น้ำตาลทราย 230 กรัม

5. น้ำมะนาว 1 ช้อนชา

6. กะทิ 130 มล.

7.แป้งข้าวเจ้า 1 ช้อนชา

8. เกลือ ½ ช้อนชา

วิธีทำฟักทองเชื่อม

  1. ปอกเปลือกและควักไส้ฟักทองให้เรียบร้อย หลังจากนั้นตัดเป็นชิ้นค่อนข้างหนา ถ้าตัดบางเกินไปเวลาเชื่อมอาจจะทำให้ฟักทองเละได้ค่ะ
  2. นำไปแช่ในน้ำปูนใส 20-30 นาที เมื่อครบเวลาแล้ว ล้างฟักทอง 2-3 น้ำให้สะอาด
  3. ผสมน้ำและน้ำตาลทราย คนให้น้ำตาลละลาย แล้วใส่น้ำมะนาว เอาฟักทองลงเชื่อมด้วยไฟกลางค่อนอ่อน พยายามกดชิ้นฟักทองให้จมลงในน้ำเชื่อม และหมั่นพลิกฟักทอง ให้ถูกเชื่อมเท่า ๆ กัน ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
  4. เชื่อมฟักทอง 45-60 นาที เมื่อฟักทองเริ่มใสแสดงว่าใช้ได้แล้ว อาจตัดชิ้นเล็ก ๆ แล้วชิมว่าได้ที่หรือยัง ได้ที่แล้วยกขึ้นพักไว้
  5. ทำน้ำกะทิ โดยตั้งไฟอ่อน ต้มกะทิ ใส่แป้งข้าวเจ้าและเกลือคนให้เข้ากัน คนจนนำกะทิเริ่มข้น ยกลงทิ้งไว้ให้เย็น
  6. จัดเสิร์ฟชิ้นฟักทองเชื่อมลงจานแล้วราดด้วยน้ำกะทิ

วิธีทำข้าวเหนียวเปียกลำไย

ข้าวเหนียวเปียกลำไย

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

วัตถุดิบทำข้าวเหนียวเปียกลำไย

วัตถุดิบเมนูข้าวเหนียวเปียกลำไย

1. ลำไย 400 กรัม (ปอกเปลือก คว้านเมล็ด และล้างน้ำให้สะอาด)

2. ข้าวเหนียวเก่า 120 กรัม

3. น้ำลอยดอกมะลิ 4 ถ้วยตวง

4. น้ำตาล 175 กรัม

5. น้ำดอกอัญชันมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ

6. หัวกะทิ 1 ถ้วยตวง

7. เกลือป่น ¼ ช้อนชา

8. แป้งข้าวโพด 1 ช้อนชา

9. สารส้มที่ยังไม่ได้ใช้ 1 ก้อน

วิธีทำข้าวเหนียวเปียกลำไย

  1. ล้างข้าวเหนียวแล้วนำสารส้มไปแกว่งในน้ำที่จะใช้ล้างข้าวเหนียวโดยวนสารส้มในกะละมังจนน้ำมีสีขุ่นแล้วเอาสารส้มออก
  2. นำข้าวเหนียวลงไปล้างในน้ำที่เราวนสารส้มเอาไว้ จากนั้นนำข้าวเหนียวไปล้างน้ำให้สะอาดอีก 3 ครั้ง เสร็จแล้วจึงเทใส่กระชอนพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ
  3. เทน้ำลอยดอกมะลิและน้ำดอกอัญชันลงในหม้อ ตั้งไฟกลางรอจนน้ำเดือดแล้วจึงใส่ข้าวเหนียวลงไป เบาไฟลงและหมั่นคนเป็นระยะ โดยต้องคนให้ถึงก้นหม้อเพื่อป้องกันไม่ให้ข้าวเหนียวไหม้
  4. ใส่น้ำตาลทรายลงไปแล้วคนต่อจนข้าวเหนียวสุกใสและเม็ดบาน จากนั้นจึงใส่ลำไยลงไปในกระทะ คนให้เข้ากัน รอจนเดือดแล้วปิดไฟพักไว้
  5. เทหัวกะทิ เกลือป่น และแป้งข้าวโพดลงในหม้อ จากนั้นคนจนแป้งละลายดี แล้วจึงยกหม้อขึ้นตั้งเตา โดยใช้ไฟอ่อน รอให้กะทิเดือดปุด ๆ แล้วจึงปิดไฟ
  6. ตักข้าวเหนียวและเนื้อลำไยลงในถ้วยที่เราต้องการจัดเสิร์ฟ ราดน้ำกะทิตามชอบเป็นอันพร้อมทานแล้ว

วิธีทำขนมน้ำดอกไม้

ขนมน้ำดอกไม้

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

วัตถุดิบทำขนมน้ำดอกไม้

วัตถุดิบสำหรับเมนู ขนมน้ำดอกไม้

  1. แป้งข้าวเจ้า ½ ถ้วย
  2. แป้งมัน 2 ช้อนโต๊ะ
  3. น้ำลอยดอกมะลิ ¾ ถ้วย
  4. น้ำตาลทราย ¼ ถ้วย
  5. สีผสมอาหารสีเขียวและสีชมพู

วิธีทำขนมน้ำดอกไม้

  1. ผสมแป้งข้าวเจ้ากับแป้งมันลงในชามผสม จากนั้นร่อนแป้งให้เข้ากันแล้วพักแป้งไว้
  2. ใส่น้ำตาลทรายลงในน้ำลอยดอกมะลิแล้วคนให้น้ำตาลละลายจนหมด
  3. ผสมน้ำเชื่อมลงในแป้งโดยแบ่งผสมทีละน้อยจนน้ำเชื่อมหมดและแป้งละลายดีไม่เป็นเม็ด
  4. แบ่งแป้งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งหยดสีเขียวลงไป และอีกส่วนหนึ่งหยดสีชมพูลงไป คนให้สีเข้ากับแป้งดีแล้วพักไว้
  5. นำถ้วยตะไลไปนึ่งในน้ำเดือดเป็นเวลา 10 นาที เสร็จแล้วให้เบาไฟลงเล็กน้อยเพื่อกันไม่ให้ไอน้ำร้อน ๆ ลวกมือ จากนั้นจึงเทแป้งลงในถ้วยตะไลแล้วปิดฝานึ่งเป็นเวลา 15 นาที
  6. นำถ้วยตะไลใส่ลงในถาดที่มีน้ำเย็น ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาทีแล้วจึงแคะเอาขนมออก เสิร์ฟในภาชนะที่เตรียมไว้พร้อมรับประทานได้

วิธีทำครองแครงนมสด

ครองแครงนมสด

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ครองแครงนมสด

วัตถุดิบทำครองแครงสด

วัตถุดิบครองแครงนมสด

  1. แป้งมัน 1 ถ้วย
  2. แป้งข้าวเจ้า 1/3 ถ้วย
  3. น้ำอัญชัน 1 ถ้วยตวง
  4. นมข้นจืด ตรามะลิ โปรเฟสชั่นแนล 200 มิลลิลิตร
  5. นมสด 500 มิลลิลิตร
  6. นมข้นหวาน ตรามะลิ 1 1/4  ถ้วย
  7. เกลือป่น 1 ช้อนชา
  8. งาขาวคั่ว 1/4 ถ้วย หรือมากน้อยตามชอบ
  9. ใบเตยหอม 3 ใบ

วิธีทำครองแครงนมสด

  1. เทแป้งข้าวเจ้าและแป้งมันลงในชามผสม แล้วคนให้พอเข้ากัน
  2. จากนั้นเทน้ำดอกอัญชันร้อนจัดลงไป คนให้เข้ากัน พอส่วนผสมแป้งกับน้ำเข้ากันดีประมาณหนึ่ง หยุดคนแล้วเปลี่ยนไปใช้มือนวดแทน นวดให้แป้งจับตัวเป็นก้อนนุ่มเข้ากันดี จากนั้นเอาพลาสติกแรปปิดเอาไว้เพื่อไม่ให้ตัวแป้งแห้ง พักไว้
  3. พอทำแป้งแล้ว ก็มาเริ่มปั้นตัวครองแครงโดยคลึงแป้งให้เป็นเส้นยาว เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 ซม. คลึงเสร็จก็เอาแป้งมันโรยบาง ๆ ให้ทั่วเส้น เสร็จแล้วใช้มีดคม ๆ ตัดแป้งเป็นชิ้นเล็ก ๆ
  4. นำแป้งครองแครงแต่ละชิ้นมากดลงบนพิมพ์ครองแครงให้แป้งมีรอยบากสวยงาม โดยก่อนกดให้โรยแป้งมันลงบนพิมพ์ครองแครงสักหน่อย เพื่อกันแป้งติดพิมพ์ พักไว้บนจานโดยคลุมพลาสติกแรปไว้เพื่อไม่ให้แป้งครองแครงแห้ง
  5. ทำนมสดโดยเริ่มจากตั้งหม้อบนเตา เทนมสด, นมข้นจืด ตรามะลิ โปรเฟสชั่นแนล และนมข้นหวาน ตรามะลิ ลงไป ตามด้วยน้ำตาลทรายขาว, เกลือป่น และใบเตยหอม เปิดไฟเตาเป็นไฟกลาง คนไปเรื่อย ๆ เป็นระยะ ๆ ให้ส่วนผสมละลายเข้ากันดี เสร็จแล้วยกลงจากเตา
  6. ต้มครองแครงโดยตั้งหม้ออีกใบ ใส่น้ำเปล่า เปิดไฟรอจนน้ำร้อน แล้วใส่ครองแครงลงไปลวกให้สุก คน ๆ ให้ตัวแป้งกระจายไม่ติดกัน
  7. นำครองแครงที่สุกแล้วลงไปใส่ในหม้อนมสด คนสักเล็กน้อย จากนั้นก็ตักเสิร์ฟ พร้อมโรยงาได้เลย

วิธีทำทับทิมกรอบ

ทับทิมกรอบ

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

วัตถุดิบทับทิมกรอบ

วัตถุดิบทับทิมกรอบ

  1. แห้วปอกเปลือกต้มสุก 300 กรัม
  2. แป้งมันสำปะหลัง 150 กรัม
  3. น้ำตาลทราย 200 กรัม
  4. น้ำ 200 มิลลิลิตร
  5. หัวกะทิ 200 มิลลิลิตร
  6. ใบเตย 3 ใบ
  7. เกลือ ½ ช้อนชา
  8. สีผสมอาหารสีแดง ½ ช้อนชา

วิธีทำ

  1. หั่นแห้วเป็นชิ้นเต๋าขนาด 1 เซนติเมตร แล้วนำไปแช่ในน้ำเปล่าที่ผสมสีผสมอาหารสีแดงไว้ เป็นเวลา 15 นาที สีแดงที่ละลายน้ำไว้จะซึมเข้าไปในแห้ว ทำให้เปลี่ยนเป็นสีแดง- นำแห้วที่เปลี่ยนเป็นสีแดงแล้ว ไปซับน้ำออกให้พอหมาด แล้วนำไปคลุกกับแป้งมันให้ทั่ว
  2. ตั้งหม้อ ต้มน้ำให้เดือด นำแห้วที่คลุกแป้งมันแล้วมาร่อนเอาแป้งส่วนเกินออก แล้วใส่ลงไปต้มในน้ำเดือด เมื่อแป้งที่เคลือบแห้วเริ่มเปลี่ยนเป็นสีใส และตัวทับทิมกรอบลอยขึ้นมา แสดงว่าสุกแล้ว ให้ตักขึ้นลงแช่ในน้ำเย็นจัด เพื่อให้แป้งเซตตัว อ่านต่อได้ที่
  3. ตั้งหม้อบนเตา ใช้ไฟกลาง ใส่หัวกะทิ และใบเตยลงไป เมื่อหัวกะทิเริ่มร้อน ใส่น้ำตาลทรายและเกลือลงไป คนให้ละลายเข้ากันดี
  4. ตักทับทิมกรอบใส่ชาม ราดด้วยน้ำกะทิ อาจใส่น้ำแข็งเพิ่มเติมเพื่อความเย็นสดชื่น